วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

แบบฝึกหัดท้ายบทที่1



แบบฝึกหัดท้ายบทที่ ๑

. สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์เรื่อง การพัฒนามนุษย์ การศึกษา การเรียนรู้และหลักสูตร
การพัฒนามนุษย์  มนุษย์ คือสัตว์ที่รู้จักใช้เหตุผลสัตว์ที่มีจิตใจสูง ส่วนการพัฒนานั้นหมายถึง ทำให้เจริญ ( พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.. ๒๕๒๕) จากความหมายของศัพท์ดังกล่าว สรุปได้ว่า การพัฒนามนุษย์ คือการทำให้มนุษย์เจริญมีศักยภาพมากขึ้น จนกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าในสังคมและประเทศ
   การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นการนำเอาศักยภาพของแต่ละบุคคลมาใช้ในการปฏิบัติงาน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างให้แต่ละบุคคลเกิดทัศนคติที่ดีต่อองค์การ ตลอดจนเกิดความตระหนักในคุณค่าของตนเอง ดังที่จะอธิบายต่อไปนี้
มนุษย์ทุกคนมีศักยภาพ สามารถพัฒนาให้เพิ่มพูนขึ้นได้ ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะและเจตคติถ้าหากมีแรงจูงใจที่ดีพอ
การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ ควรจะเป็นกระบวนการต่อเนื่องตั้งแต่การสรรหา การคัดเลือกนำมาสู่การพัฒนาในระบบองค์การ
วิธีการในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะขององค์การและบุคลากร
ระบบการประเมิน จัดให้มีระบบการประเมินการพัฒนาความสามารถของบุคคลเป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยแก้ไขบุคลากรบางกลุ่มให้พัฒนาความสามารถเพิ่มขึ้นและสนับสนุนขีดความสามารถให้สูงและก้าวหน้าในตำแหน่ง
แนวความคิดของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แบ่งได้เป็น ๓ กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ ๑ ให้นิยามการพัฒนามนุษย์ว่า หมายถึง การดำเนินการให้บุคคลได้รับประสบการณ์และการเรียนรู้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อที่จะนำมารับปรุงในการทำงานโดยวิธีการ ๓ ประการคือ
การพัฒนา (development) กระบวนการปรับปรุงองค์กรให้มีประสิทธิภาพเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ไม่ได้มุ่งตัวงาน แต่มีจุดเน้นให้เกิดการ
การฝึกอบรม (training) เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้นเกี่ยวกับงานที่ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน
การศึกษา (education) การให้การศึกษาเป็นการเพิ่มพูนทักษะ ทัศนคติ ตลอดจนเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวในทุกๆ ด้านให้กับบุคคล
กลุ่มที่ ๒ ให้นิยามการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ว่า หมายถึง การนำกิจกรรมที่มีการกำหนดและวางรูปแบบอย่างเป็นระบบเพื่อใช้เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความสามารถ พฤติกรรมให้ดีขึ้น มุ่งเน้นการพัฒนาใน ๓ ส่วน ดังนี้
การพัฒนาบุคล Individual Development
การพัฒนาสายอาชีพ Career Development
การพัฒนาองค์การOrganization Development
กลุ่มที่ ๓ ให้นิยามการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ว่า หมายถึง การที่จะพัฒนาองค์การ ให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างการเรียนรู้และงานเข้าด้วยกัน มี ๓ ส่วน  ระดับบุคคล  ระดับกลุ่มหรือทีมปฏิบัติงาน ระดับระบบโดยรวม
การศึกษา     มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการดำรงชีพ รวมทั้งการเรียนรู้ตลอดชีวิตยังสร้างความได้เปรียบในการประกอบอาชีพที่ต้องแข่งขันกันในทุก ๆ ด้าน สำหรับประเทศไทยมีกฎหมายบังคับให้ประชาชนทุกคนต้องจบการศึกษาภาคบังคับ และสามารถเรียนได้จนจบการศึกษาภาคบังคับ
        การศึกษา หมายถึง ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.. ๒๕๔๒ มี ๓ รูปแบบคือ การศึกษาใน-ระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
การศึกษาในระบบ  หมายถึง การศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร                    
ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและการประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
การศึกษานอกระบบ   การศึกษานอกระบบเป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม เช่น การศึกษาผู้ใหญ่ การศึกษาชุมชน
การศึกษาตามอัธยาศัย  การศึกษาตามอัธยาศัยเป็นการศึกษาที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สิ่งแวดล้อม สื่อ หรือแหล่งความรู้อื่น ๆ
การเรียนรู้ หมายถึง การได้รับความรู้ พฤติกรรม ทักษะ คุณค่า หรือความพึงพอใจ ที่เป็นสิ่งแปลกใหม่หรือปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ และอาจเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารสนเทศชนิดต่าง ๆ การเรียนรู้ของมนุษย์อาจเกิดขึ้นจากส่วนหนึ่งของการศึกษา การพัฒนาส่วนบุคคล การเรียนการสอนหรือการฝึกฝน การเรียนรู้อาจมีการยึดเป้าหมายและอาจมีความจูงใจเป็นตัวช่วย และอาจจะก่อให้เกิดพฤติกรรมการเรียนรู้หรือการวางเงื่อนไข
จุดมุ่งหมายของการเรียนรู้
พฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดมุ่งหมายของนักการศึกษาซึ่งกำหนดโดย บลูม และคณะ (Bloom and Others ) มุ่งพัฒนาผู้เรียนใน 3 ด้าน ดังนี้
1.      ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) คือ ผลของการเรียนรู้ที่เป็นความสามารถทางสมอง ครอบคลุมพฤติกรรมประเภท ความจำ ความเข้าใจ การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์และประเมินผล
2.      ด้านเจตพิสัย (Affective Domain ) คือ ผลของการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงด้านความรู้สึก ครอบคลุมพฤติกรรมประเภท ความรู้สึก ความสนใจ ทัศนคติ การประเมินค่าและค่านิยม
3.      ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) คือ ผลของการเรียนรู้ที่เป็นความสามารถด้านการปฏิบัติ ครอบคลุมพฤติกรรมประเภท การเคลื่อนไหว การกระทำ การปฏิบัติงาน การมีทักษะและความชำนาญ
มีนักศึกษาได้ให้คำจำกัดของคำว่า การเรียนรู้ เอาไว้มากมาย ซึ่งพอสรุได้ว่านักศึกษาต่างเห็นว่า การเรียนรู้ นั้นเป็นกระบวนการหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคล ยกตัวอย่างดังนี้
Klein (1987 : 102) ได้ให้คำจำกัดความของการเรียนรู้ คือ การเรียนรู้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ถาวรได้อย่างสัดส่วน ในความสามารถแสดงพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในฐานะผลของประสบการณ์ ที่ได้รับความสำเร็จหรือไม่ได้รับความสำเร็จ
Good (อ้างใน สรุพันธ์ ตันศรีวงษ์. 2538 : 41) กล่าวว่า การเรียนรู้ คือการเลี่ยนแลงพฤติกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงในทางตอบสนอง
          Hilgard and Bower กล่าวว่า  การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอันเป็นผลจากการฝึกฝนและประสบการณ์  แต่มิใช่ผลจากการตอบสนองที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ  เช่น  สัญชาตญาณ  หรือ  วุฒิภาวะ  หรือจากการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวของร่างกาย  เช่น  ความเมื่อยล้า  พิษของยา  เป็นต้น
          อาจสรุปได้ว่าการเรียนรู้เป็นกระบวนการหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคล ที่อาจมีผลสืบเนื่องจากประสบการณ์  หรือการฝึกฝน  โดยมีเป้าหมาย  คือวัตถุประสงค์  ตอบสนองความต้องการ  หรือแก้ปัญหาก็ตาม  การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ใน  3  ด้าน  คือ  ความรู้  ทักษะ  และความรู้สึกที่เป็นผลจากสิ่งเร้า  สิ่งแวดล้อม  ครู  สื่อ  อุปกรณ์การสอน  ครอบครัว  สังคม  กระบวนการจัดการเรียนการสอน  แรงจูงใจ  และมีการตอบสนองจากนักเรียน  ทำให้นักเรียนมีความสนใจใฝ่รู้เข้ามามีส่วนร่วมหลายๆ ครั้ง  จนมีพัฒนาการเป็นนิสัยหรือพฤติกรรม  ในที่สุดแล้วจึงสามารถกล่าวได้ว่าการเรียนรู้เกิดสัมฤทธิ์ผลโดยสมบูรณ์

หลักสูตร คำว่า “หลักสูตร” แปลมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า “curriculum” ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินว่า “currere” หมายถึง“running course” หรือ เส้นทางที่ใช้วิ่งแข่ง ต่อมาได้นำศัพท์นี้มาใช้ในทางการศึกษาว่า “running sequence of course or learning experience” (Armstrong, 1989 : 2) เป็นการเปรียบเทียบหลักสูตรเสมือนสนามหรือลู่วิ่งให้ผู้เรียนจะต้องฟันฝ่าความยากของวิชา หรือประสบการณ์การเรียนรู้ต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรเพื่อความสำเร็จ มีนักการศึกษาได้ให้ความหมายของคำว่าหลักสูตรหลายท่าน ยกตัวอย่างเช่น ไทเลอร์ (Tyler. 1949: 79) ได้สรุปว่าหลักสูตรเป็นสิ่งที่เด็กจะต้องเรียนรู้ทั้งหมด โดยมีโรงเรียนเป็นผู้วางแผนและกำกับเพื่อให้บรรลุถึงจุดหมายของการศึกษา 
กู๊ด (Good. 1973: 157) ได้ให้ความหมายของหลักสูตรไว้ 3 ประการ ดังนี้ คือ
1. หลักสูตร หมายถึง เนื้อหาวิชาที่จัดไว้เป็นระบบให้ผู้เรียนได้ศึกษา เพื่อสำเร็จหรือรับประกาศนียบัตรในสาขาวิชาหนึ่ง
2. หลักสูตร หมายถึง เค้าโครงสร้างทั่วไปของเนื้อหาหรือสิ่งเฉพาะที่จะต้องสอน ซึ่งโรงเรียนจัดให้แก่เด็กเพื่อให้สำเร็จการศึกษาและสามารถเข้าศึกษาต่อในทางอาชีพต่อไป
3. หลักสูตร หมายถึง กลุ่มวิชาและการจัดประสบการณ์ที่กำหนดไว้ให้ผู้เรียนได้เรียนภายใต้การแนะนำของโรงเรียนและสถานศึกษา 
วิชัย วงษ์ใหญ่ (2537: 12) ได้ให้แนวคิดว่า หลักสูตร คือ มวลประสบการณ์ทั้งปวงที่จัดให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ครบถ้วนตามมาตรฐานคุณภาพสากล มาตรฐานความเป็นชาติไทยและมาตรฐานที่ชุมชนท้องถิ่นต้องการ สงัด
อุทรานันท์ (2538: 6) กล่าว หลักสูตร หมายถึง ลักษณะใดลักษณะหนึ่งต่อไปนี้
 1. หลักสูตร คือ สิ่งที่สร้างขึ้นในลักษณะของรายวิชา ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสาระที่จัดเรียงลำดับความยากง่าย หรือเป็นขั้นตอนอย่างดีแล้ว
2. หลักสูตร ประกอบด้วยประสบการณ์ทางเรียนซึ่งได้วางแผนล่วงหน้าเพื่อมุ่งหวังจะให้เด็กได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางที่ต้องการ
3.หลักสูตร เป็นสิ่งที่สังคมสร้างขึ้นสำหรับให้ประสบการณ์ทางการศึกษาแก่เด็กในโรงเรียน
4. หลักสูตร ประกอบด้วยมวลประสบการณ์ทั้งหมดของผู้เรียน ซึ่งเขาได้ทำได้รับรู้ และได้ตอบสนองต่อการแนะแนวของโรงเรียน
            จากแนวคิดข้างต้น จึงสรุปได้ว่า หลักสูตร คือ แนวทางในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุจุดมุ่งหมายทางการศึกษาตามมาตรฐานสากล มาตรฐานหลักสูตรแกนกลาง และความต้องการชุมชนท้องถิ่น


. อุปมาอุปมัย  เมื่อการศึกษาเปรียบได้กับเครื่องมือพัฒนามนุษย์ หลักสูตรเปรียบได้กับสิ่งใด
       หลักสูตร เปรียบเสมือนกับแผนที่ ดังที่เซเลอร์ และอเล็กซานเดอร์ (Saylor and Alexander 1981:5) กล่าวว่าหลักสูตรเปรียบเสมือนแผนการเดินทางและตารางที่ยืดหยุ่นได้ในการดำเนินการศึกษา หลักสูตรจะถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านเนื้อหา และวิชาการทางด้านการศึกษาระดับชั้นต่างๆรวมอยู่ด้วย  ดังคำกล่าวที่ปรากฏจะเห็นได้ว่า หลักสูตรคือสิ่งชี้นำทางการศึกษา ช่วยให้ผู้เรียนมีเป้าหมายและทิศทางที่ถูกต้องในการศึกษาเล่าเรียน ตามความคิดของข้าพเจ้าจึงเปรียบหลักสูตรเสมือนแผนที่ที่จะช่วยบอกทิศทางในการเดินทางให้ไปสู่จุดหมายได้โดยไม่หลงออกนอกพื้นที่ จัดเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้รู้และเข้าใจเส้นทางการเดินทางได้โดยเที่ยงตรง
                นับเนื่องตั้งแต่การเริ่มสร้างหลักสูตรนั้นคล้ายคลึงกันกับการสร้างแผนที่ นั่นคือ ต้องประกอบไปด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง และเชี่ยวชาญจากหลายฝ่าย (Team) มาช่วยกันพิจารณา (Curriculum Planning) สร้างหลักสูตรขึ้น ซึ่งแน่นอนเหลือเกินว่าหลักสูตรที่ดีนั้นย่อมไม่สามารถสร้างขึ้นโดยลำพังได้จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องเพราะหลักสูตรนั้นต้องสร้างให้เหมาะสมกับสภาพชุมชน ท้องถิ่น ความต้องการในขณะนั้น เช่นเดียวกันกับแผนที่ที่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและใช้ผู้รู้จากหลายฝ่ายในการจัดทำขึ้น  การตั้งเป้าหมาย (Goal) ของหลักสูตรจึงเปรียบเสมือนกับการตั้งเป้าหมายใหญ่หรือสถานที่ที่จะไปในแผนที่ เนื้อหาที่ปรากฏในหลักสูตรก็เสมือนรายละเอียดของหลักสูตรที่ช่วยขยายความให้รายละเอียดที่ชัดเจนโดยอาจปรากฏขึ้นทั้งในรูปแบบของวัจนและอวัจนภาษา (Verbal and Non-Verbal Language)
                จากนั้นจึงเป็นขั้นของการนำหลักสูตรไปใช้ (Curriculum Implementation) ซึ่งเปรียบกับการใช้แผนที่ในการเสาะแสวงหา Goal ที่ได้ตั้งไว้ หากผู้ใช้สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้จริงตามเกณฑ์ที่กำหนดนั่นย่อมเป็นการรับประกันคุณภาพที่ปรากฏของแผนที่ หรือหากเกิดข้อผิดพลาดจะได้หาแนวทางแก้ไข พัฒนาเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม ซึ่งแนวคิกเหล่านี้เชื่อมโยงกับ ขั้นตอนในการประเมินผลหลักสูตร (Curriculum Evaluation) เพื่อให้ผู้ใช้หลักสูตรได้แก้ไข พัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยังประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติได้อย่างดีที่สุด  
โดยขอสรุปแนวความคิดหลักสูตรเปรียบได้ดังแผนที่เป็นตาราง ดังนี้


                             หลักสูตร
แผนที่
คณะหรือองค์กรในการจัดทำ เช่น คณะผู้บริหาร นักวิชาการ ครูอาจารย์
ฝ่ายผู้รับผิดชอบสร้างแผนที่  เช่น นักธรณีวิทยาผู้รับผิดชอบผังเมือง
รูแบบประเมินความต้องการ Need Assessment
เครื่องหมายแสดงทิศ
พันธกิจ เป้าหมาย วิสัยทัศน์
สถานที่หรือจุดหมายในการเดินทาง
รายละเอียด หลักสูตร
รายละเอียดแผนภาพ
คณาจารย์ นักเรียน ผู้เกี่ยวข้องนำใช้
ผู้ใช้แผนที่นำใช้
สรุป และประเมินผล
การเดินทางสู่เหมาย





                      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น