แบบฝึกหัดท้ายบทที่
๒
๑.
สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรื่อง นิยาม
ความหมาย : ทฤษฎี ทฤษฎีหลักสูตร
ทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตร
ความหมายของทฤษฎี
Abraham Kaplan ได้ให้ความหมายว่า “ทฤษฎีเป็นหนทางที่ทำให้รู้สึกถึงสถานการณ์ที่รบกวน อย่างเช่น ไม่ทำตามกระแส
ยิ่งกว่านั้น เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลิกพฤติกรรม
ด้วยการแทนที่สิ่งใหม่ในขณะที่สถานการณ์เรียกร้อง ความท้าทายของนักทำหลักสูตร คือ
การกำหนดเพียงลักษณะของวงการหลักสูตรที่เราทำลังประมวลผล สมมติฐานของเราคือ
วงการหลักสูตรจะต้องเกี่ยวข้องกับนักทำหลักสูตร
ในการสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับการออกแบบหลักสูตร และการพัฒนาหลักสูตร
คำว่า “ทฤษฎี” บางครั้งหมายถึง
ชุดของข้อเสนอที่มีอิทธิพลที่ได้รับมาจากผลการวิเคราะห์
ลักษณะทั่วไปเหล่านี้หมายถึงความจริง กฎหมาย
และสมมติฐานหลายประการที่เกี่ยวข้องกันในทางกฎเกณฑ์ และที่ก่อตั้งรูปแบบเอกลักษณ์ทั้งหมด
นักวิชาการหลายท่านได้ให้ความหมายของทฤษฎี
ดังนี้
๑. Good : ทฤษฎี คือ ข้อสมมติต่าง ๆ(Assumption)
หรือข้อสรุปเป็นกฎเกณฑ์ (Generalization) ซึ่งได้รับ
การสนับสนุนจากข้อสมมติทางปรัชญาและหลักการทางวิทยาศาสตร์
เพื่อใช้เป็นเสมือนพื้นฐานของการปฏิบัติ ข้อสมมติซึ่งมาจากการสำรวจทางวิทยาศาสตร์
การค้นพบต่าง ๆ จะได้รับการประเมินผล เพื่อให้มีความเที่ยงตรงตามหลักวิทยาศาสตร์
และข้อสมมติทางปรัชญา อันถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการสร้าง (Construction)
๒.
Kneller : ได้ให้ความหมายของทฤษฎีไว้ ๒ ความหมาย คือ
๒.๑ ข้อสมมติฐานต่าง ๆ (Hypothesis) ซึ่งได้กลั่นกรองแล้ว จากการสังเกตหรือทดลอง เช่น
ในเรื่องความโน้มถ่วงของโลก
๒.๒ ระบบขอความคิดต่าง ๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกัน (Coherent)
๒.๒ ระบบขอความคิดต่าง ๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกัน (Coherent)
๓. Feigl :
ทฤษฎีเป็นข้อสมมติต่าง ๆ ซึ่งมาจากกระบวนการทางตรรกวิทยา
และคณิตศาสตร์ ทำให้เกิด กฎเกณฑ์ที่ได้มาจากการสังเกตและการทดลอง
๔. ธงชัย สันติวงษ์ : ทฤษฎี หมายถึง ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมแนวความคิดและหลักการต่าง ๆ ให้เป็นกลุ่มก้อนและสร้างเป็นทฤษฎีขึ้น ทฤษฎีใด ๆ ก็ตามที่ตั้งขึ้นมานั้น เพื่อรวบรวมหลักการและแนวความคิดประเภทเดียวกันเอาไว้อย่างเป็นหมวดหมู่
๔. ธงชัย สันติวงษ์ : ทฤษฎี หมายถึง ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการรวบรวมแนวความคิดและหลักการต่าง ๆ ให้เป็นกลุ่มก้อนและสร้างเป็นทฤษฎีขึ้น ทฤษฎีใด ๆ ก็ตามที่ตั้งขึ้นมานั้น เพื่อรวบรวมหลักการและแนวความคิดประเภทเดียวกันเอาไว้อย่างเป็นหมวดหมู่
๕. เมธี ปิลันธนานนท์ : ได้กล่าวถึงหน้าที่หลักของทฤษฎี
มี ๓ ประการ คือ การพรรณนา (Description) การอธิบาย (Explanation)
และการพยากรณ์ (Prediction)
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ทฤษฎีหลักสูตร
เป็นทฤษฎีที่อาจสร้างขึ้นมาเองหรืออิงมาจากทฤษฎีจากสาขาวิชาอื่น ๆ เช่น จิตวิทยา
สังคมวิทยา มานุษยวิทยา และปรัชญาซึ่งนำมาใช้อธิบายความหมายของหลักสูตร หลักสูตรเป็นความสำคัญขั้นพื้นฐานต่อครูและนักเรียน
ต่อธรรมชาติของการสอนและการเรียน และการพัฒนาหลักสูตรได้รับอิทธิพลอย่างมากจากค่านิยม
ทฤษฎีหลักสูตร หมายถึง
ข้อความที่อธิบายความหมายของหลักสูตรโดยชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่าง
ๆ ชี้นำแนวทางการพัฒนาการใช้และการประเมินผลหลักสูตรประกอบกัน ทฤษฎีต่าง ๆ
เกิดจากข้อเท็จจริงซึ่งค้นพบได้จากการพิสูจน์ และการใช้ข้อสรุปจากกฎที่ตั้งไว้จากการสังเกต
มิใช่อาศัยเหตุและผลนำมาสรุปเป็นกฎและหลักการ
ทฤษฎีหลักสูตรเป็นคำอธิบายสิ่งต่าง ๆ
เกี่ยวกับการใช้หลักสูตร การสร้างหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตร การประเมินผลหลักสูตร
และการนำผลที่ได้รับจากการประเมินผลมาปรับปรุงแก้ไขหลักสูตร (Kelly.2009)
โดยเน้นการบรรยายถึงสิ่งต่าง ๆ ที่แสดงความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันระหว่างจุดหมายกับเนื้อหาวิชา
ระหว่างเนื้อหาวิชาและโครงสร้างของหลักสูตรทั้งหมด
ทฤษฎีหลักสูตรมี ๒ ประเภท คือ
ทฤษฎีการออกแบบหลักสูตรและทฤษฎีวิศวกรรมหลักสูตร
๑. ทฤษฎีการออกแบบหลักสูตรเป็นพื้นฐานขององค์ประกอบของหลักสูตร
๒. ทฤษฎีวิศวกรรมหลักสูตร อธิบาย ทำนาย
หรือแม้กระทั่งแนะนำกิจกรรมการพัฒนาหลักสูตรมีความเกี่ยวข้องกับแผนเฉพาะ
หลักการและ / หรือวิธีการ หรือขั้นตอน
ทฤษฎีทางวิศวกรรมหลักสูตรยังมีพื้นฐานมาจากหลักการวัดและสถิติ
ทฤษฎีหลักสูตรชนิดต่าง
ๆ
ทฤษฎีหลักสูตรแบ่งออกเป็น
๔ ชนิด ดังนี้
๑.
ทฤษฎีแม่บท เป็นทฤษฎีหลักที่กล่าวถึงหลักการ กฎเกณฑ์ทั่ว ๆ ไป
ตลอดจนโครงสร้างของหลักสูตร
๒. ทฤษฎีเนื้อหา เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับเนื้อหากล่าวถึงความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง
ๆ
๓. ทฤษฎีจุดระสงค์ เป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
และกล่าวถึงว่าจุดประสงค์นั้น ๆ ได้อย่างไร
๔. ทฤษฎีดำเนินการ เป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงว่าจะทำหรือดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างไร
(กาญจนา
คุณารักษ์.2527:5
อ้างถึงในโกสินทร์ รังสยาพนธ์.2526:25)
ทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตร
คือ เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ระยะเวลา
ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปตามความหมายเหมาะสมโดยอาจปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น หรือสร้างหลักสูตรขึ้นมาใหม่โดยที่ยังไม่เคยมีหลักสูตรนั้นมาก่อนก็ได้
ซึ่งผู้พัฒนาสามารถดำเนินการได้ทุกระยะเวลาและต้องดำเนินการให้เป็นตามความเหมาะสม และกระบวนการวางแผนและพัฒนาประสบการณ์ในการเรียนรู้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวผู้เรียน ยกตัวอย่างเช่น
ทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์
๑. มีจุดประสงค์ทางการศึกษาอะไรบ้าง
ที่โรงเรียนควรแสวงหา
๒. มีประสบการณ์ทางการศึกษาอะไรบ้าง ที่สามารถจัดขึ้นเพื่อช่วยให้บรรลุจุดประสงค์ที่กำหนดไว้นั้น
๓. จะจัดระบบประสบการณ์ดังกล่าวนี้อย่างไร จึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
๔. จะประเมินประสิทธิภาพของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร จึงจะตัดสินใจได้ว่าบรรลุถึงจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
คำถามทั้ง ๔ ประการนี้ ตรงกับองค์ประกอบที่สำคัญในการวางแผนหรือพัฒนาหลักสูตร ๔ ด้าน ตามลำดับดังนี้
๒. มีประสบการณ์ทางการศึกษาอะไรบ้าง ที่สามารถจัดขึ้นเพื่อช่วยให้บรรลุจุดประสงค์ที่กำหนดไว้นั้น
๓. จะจัดระบบประสบการณ์ดังกล่าวนี้อย่างไร จึงจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
๔. จะประเมินประสิทธิภาพของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร จึงจะตัดสินใจได้ว่าบรรลุถึงจุดประสงค์ที่กำหนดไว้
คำถามทั้ง ๔ ประการนี้ ตรงกับองค์ประกอบที่สำคัญในการวางแผนหรือพัฒนาหลักสูตร ๔ ด้าน ตามลำดับดังนี้
การตั้งเป้าประสงค์
การเลือกเนื้อหา
การประเมินผล
การสอน
จากรูปแบบและทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตร
สรุปเป็นหลักของการพัฒนาหลักสูตรดังนี้
1. ใช้พื้นฐานจากประวัติศาสตร์ ปรัชญา สังคม จิตวิทยา และวิชาความรู้ต่างๆ
2. พัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม โดยวิเคราะห์ปัญหาความต้องการและความจำเป้นต่างๆ ของสังคม
3. พัฒนาให้สอดคล้องกับระดับพัฒนาการ ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน
4. พัฒนาให้สอดคล้องกับหลักของการเรียนรู้
5. ในการเลือกและจัดประสบการณ์การเรียน จะต้องพิจารณาความเหมาะสมในด้านความยากง่าย ลำดับก่อนหลัง และบูรณาการของประสบการณ์ต่างๆ
6. พัฒนาในทุกจุดอย่างประสานสัมพันธ์กัน ตามลำดับจากจุดประสงค์ สาระความรู้และประสบการณ์ กระบวนการเรียนการสอน และการประเมินผล
7. พิจารณาถึงความเป็นไปได้สูงในทางปฏิบัติ
8. พัฒนาอย่างเป็นระบบ
9. พัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
10. มีการวิจัยติดตามผลอยู่ตลอดเวลา
11. ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ
อ้างอิง
1. ใช้พื้นฐานจากประวัติศาสตร์ ปรัชญา สังคม จิตวิทยา และวิชาความรู้ต่างๆ
2. พัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม โดยวิเคราะห์ปัญหาความต้องการและความจำเป้นต่างๆ ของสังคม
3. พัฒนาให้สอดคล้องกับระดับพัฒนาการ ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน
4. พัฒนาให้สอดคล้องกับหลักของการเรียนรู้
5. ในการเลือกและจัดประสบการณ์การเรียน จะต้องพิจารณาความเหมาะสมในด้านความยากง่าย ลำดับก่อนหลัง และบูรณาการของประสบการณ์ต่างๆ
6. พัฒนาในทุกจุดอย่างประสานสัมพันธ์กัน ตามลำดับจากจุดประสงค์ สาระความรู้และประสบการณ์ กระบวนการเรียนการสอน และการประเมินผล
7. พิจารณาถึงความเป็นไปได้สูงในทางปฏิบัติ
8. พัฒนาอย่างเป็นระบบ
9. พัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
10. มีการวิจัยติดตามผลอยู่ตลอดเวลา
11. ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการ
อ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2546). การพัฒนาหลักสูตรและการวิจัยเกี่ยวกับหลักสูตร:
กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
๒. ศึกษาทำความเข้าใจเพิ่มเติมจาก สุเทพ อ่วมเจริญ การพัฒนาหลักสูตร : ทฤษฎีและการปฏิบัติ “การพัฒนาหลักสูตร : ทฤษฎีหลักสูตร”
การพัฒนาหลักสูตร:ทฤษฎีและการปฏิบัติ
เป็นตำราที่มุ่งเน้นกระบวนการที่ช่วยในการกำหนดจุดหมายของการศึกษา
พร้อมทั้งแนวทางในการจัดกิจกรรมการศึกษา
ผู้เขียนได้เรียบเรียงตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตร การวางแผนหลักสูตร
การออกแบบหลักสูตร การจัดระบบหลักสูตรและการประเมินหลักสูตร
โดยนำแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรและปฏิบัติการพัฒนาหลักสูตรมารวบรวมเป็นความรู้ในวิชาการพัฒนาหลักสูตรเพื่อเป็นแนวทางนำไปปฏิบัติได้
ภายในตำราได้แยกหมวดหมู่ไว้ จำนวน5บท ประกอบด้วย
บทที่1 การพัฒนาหลักสูตร นิยาม แบบจำลองและทฤษฎีหลักสูตร
บทที่2 การวางแผนหลักสูตร
บทที่3 การออกแบบหลักสูตร
บทที่4 การจัดระบบหลักสูตร
บทที่5 การประเมินหลักสูตร
ซึ่งในแต่ละบทนั้นมีการยกวิธี การขั้นตอน แนวคิดและแบบจำลองในการพัฒนาหลักสูตรของนักทฤษฎีสำคัญทางการศึกษาไว้ด้วย
อาทิเช่น ไทเลอร์ ทาบา เซเลอร์ อเล็กซานเดอร์และเลวีส โอลิวา
หรือนักทฤษฎีทางการศึกษาของไทยอย่างวิชัย วงษ์ใหญ่ไว้อีกด้วย
มีเรื่องการวางแผนพัฒนาและแนวคิดในการวางแผนหลักสูตร เรื่องหลักการ การกำหนดคุณลักษณะและแนวคิดในการออกแบบหลักสูตรต่างๆ
รวมถึงแนวคิดในการจัดระบบ การนำหลักสูตรใช้ หลักการทางจิตวิทยาสำหรับการเรียนรู้และหลักการส่งเสริมความเป็นเลิศในการเรียนรู้และการสอนด้วยศาสตร์และศิลป์
อีกทั้งกลยุทธ์ วิธีการต่างๆ เช่น กลยุทธ์การเรียนรู้แบบบูรณาการ
การประเมินความรู้เพื่อพัฒนาวิชาชีพ
จวบจนขั้นตอนการประเมินหลักสูตร(curriculum evaluation) ให้ทราบถึงการนิยามการประเมินหลักสูตร แนวคิดการประเมิน
ประเมินความก้าวหน้า ประเมินผลสรุป ประเมินก่อน
ระหว่างและหลังการนำหลักสูตรไปใช้เพื่อการพัฒนาตน
ผู้เขียนอกจากจะรวบรวมหลักการ แนวคิด
แบบจำลองทฤษฎีของนักการศึกษาที่สำคัญระดับโลกแล้ว
ผู้เขียนยังสร้างรูปแบบและหลักการอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาอีกด้วย
ทั้งนี้ขอยกตัวอย่างขั้นตอนรวม วิธีการและการบรรยายความหมายของกระบวนการพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิด su
model โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุเทพ อ่วมเจริญ
กระบวนการพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิด su
model
กระบวนการพัฒนาหลักสูตร(สามเหลี่ยมใหญ่)จะประกอบด้วยขั้นตอนในการจัดทำหลักสูตร(สามเหลี่ยมเล็กๆ4ภาพ) โดยประกอบด้วย4ขั้นตอนดังนี้
สามเหลี่ยมแรกเป็นการวางแผนหลักสูตร(Curriculum Planing) อาศัยแนวคิดการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์คำถามที่หนึ่งคือ
มีจุดมุ่งหมายอะไรบ้างในการศึกษาที่โรงเรียนต้องแสวงหา
สามเหลี่ยมรูปที่สอง เป็นการออกแบบ(Curriculum Design) ซึ่งจะนำจุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตร มาจัดทำกรอบการปฏิบัติ
สามเหลี่ยมรูปที่สาม เป็นการจัดการหลักสูตร(Curriculum Organize)ซึ่งจะสังเกตเห็นว่ารูปสามเหลี่ยมนี้กลับหัวคล้ายเงาสะท้อนของสามเหลี่ยมรูปแรก
ในทางปฏิบัติการจัดการหลักสูตรต้องพิจารณาว่าเป็นไปตามการวางแผนหรือไม่
สอดคล้องกับคำถามที่สามของไทเลอร์
คือจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
สามเหลี่ยมรูปที่สี่
การประเมิน(Curriculum Evaluation)
เป็นการประเมินทั้งหลักสูตรและผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร
สอดคล้องกับคำถามที่สี่ของไทเลอร์ คือ ประเมินประสิทธิ์ผลของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร
การสร้างแบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดSU
Model
SU Model คือ
แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตร ซึ่งมีลำดับขั้นในการสร้างแบบจำลอง ดังนี้
เริ่มจากการเขียนรูปวงกลม
มีความหมายดั่ง จักรวาลแห่งการเรียนรู้
เรียกง่ายๆว่าโลกแห่งการศึกษาและเขียนรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ลงบนเส้นรอบวงของวงกลม
มีความหมายแทน กระบวนการพัมนาหลักสูตร
โดยให้มุมบนสุดของสามเหลี่ยมแสดงจุดหมายของหลักสูตรที่มุ่งเน้น ความรู้(Knowledge)
มุมล่างด้านซ้ายมือแสดงจุดหมายของหลักสูตรที่มุ่งเน้น ผู้เรียน(Learner)
และมุมล่างด้านขวามือ แสดงจุดหมายของหลักสูตรที่มุ่งเน้นสังคม(Society)
ในพื้นที่วงกลมยังระบุพื้นฐาน3ด้าน ประกอบด้วย ปรัชญา จิตวิทยาและสังคม
ทั้งนี้ผู้เขียนได้นำแนวคิดกระบวนการพัฒนาหลักสูตรมากำหนดชื่อสามเหลี่ยมทั้งสี่รูปให้เป็นไปตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตร
ดังนี้
1) การวางแผนหลักสูตร(Curriculum
planing)
2) การออกแบบหลักสูตร
(Curriculum Design)
3) การจัดดการหลักสูตร
(Curriculum Organize)
4) การประเมินหลักสูตร
(Curriculum Evaluation)
กล่าวโดยสรุป หนังสือการพัฒนาหลักสูตร:ทฤษฎีและการปฏิบัติ
เป็นหนังสือที่อัดแน่นด้วยสารประโยชน์ทางการศึกษา
อันเป็นผลดีต่อผู้สนใจในการสืบค้นข้อมูลและความเข้าใจในรูปแบบจำลอง อีกทั้ง
ยังเป็นประโยชน์ต่อการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตร จวบจนการสรุปและประเมินผล
อันเป็นผลพวงที่ดีต่อความก้าวหน้าของวงการการศึกษาของไทย
ทฤษฎีหลักสูตร
ทฤษฎี(Theory) หมายถึง หลักการที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว
และกำหนดขึ้นมาเพื่อจะได้ทำหน้าที่อธิบายการกระทำหรือปรากฏการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง(อาภรณ์ ใจเที่ยง.2525:1 อ้างถึงใน รศ.ดร.ประพิมพ์พรรณ
โชคสุวัฒนสกุล.หลักสูตรมัธยมศึกษา.2534:34)
2. ความหมายของทฤษฎีหลักสูตร
ทฤษฎีหลักสูตร (Curriculum Theory) หมายถึง
ข้อความที่อธิบายความหมายของหลักสูตรโดยชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ
ชี้นำแนวทางการพัฒนาการใช้และการประเมินผลหลักสูตรประกอบกัน
3. ทฤษฎีหลักสูตรชนิดต่างๆ
ทฤษฎีหลักสูตรแบ่งออกเป็น
4
ชนิด ดังนี้
1.ทฤษฎีแม่บท เป็นทฤษฎีหลักที่กล่าวถึงหลักการ กฎเกณฑ์ทั่วๆไป
ตลอดจนโครงสร้างของหลักสูตร
2.ทฤษฎีเนื้อหา เป็นทฤษฎีเกี่ยวกับเนื้อหา
กล่าวถึงความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆ
3.ทฤษฎีจุดประสงค์
เป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงจุดประสงค์หรือจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
และกล่าวถึงว่าจุดประสงค์นั้นๆได้อย่างไร
4.ทฤษฎีดำเนินการ เป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงว่า
จะทำหรือดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อย่างไร
4. ทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดของ Hilda
Taba
แนวคิดการพัฒนาหลักสูตรของ Taba มีบางอย่างคล้ายกับของTyler มาก แต่มีข้อรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันออกไป พอสรุปได้ 11 ประการดังนี้
1.
ส่วนประกอบของหลักสูตร
2.
การศึกษาข้อมูลเพื่อนำมาเป็นเครื่องกำหนดเกณฑ์เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตร
3.
วัตถุประสงค์
4.
เกณฑ์ในการกำหนดวัตถุประสงค์
5.
การเลือกเนื้อหาสาระและการรวบรวมพินิจ
6.
เกณฑ์ในการพิจารณาเลือกเนื้อหาสาระ
7.
ปัญหาเกี่ยวกับการจัดรวบรวมเนื้อหาสาระ
8.
การจัดประสบการณ์การเรียน
9.
ลำดับขั้นของการพัฒนาหลักสูตร
10.
ยุทธวิธีการสอน
11.
การประเมินผล (วิชัย วงษ์ใหญ่.พัฒนาหลักสูตรและการสอน-มิติใหม่.2523:20)
สรุป
ทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตรของ Hilda
Taba
ทฤษฎีการพัฒนาหลักสูตรของ Hilda
Taba เป็นทฤษฎีที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงองค์ประกอบและส่วนประกอบด้านต่างๆ
ที่สำคัญของหลักสูตร
ที่หลอมรวมกันเป็นหลักสูตรคุณภาพที่ใช้ในการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าต้องการให้หลักสูตรเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
ผู้ใช้ควรนำแนวทางนั้นไปทดลองและปรับใช้ในการเรียนการเรียนการสอนให้เห็นจริง
จึงจะส่งผลให้หลักสูตรนั้นกลายเป็นหลักสูตรที่สมบูรณ์ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
5. หน้าที่ของทฤษฎี
1. จุดมุงหมายของวิทยาศาสตร์ คือ การเข้าใจปรากฏการณ์ที่ศึกษา
นักปรัชญายังหาคำตอบสำหรับคำถามของพวกเขา ความรู้คืออะไร ความจริงคืออะไร
อะไรคือคุณค่า
2. ทฤษฎีมาจากคำในภาษากรีกว่า theoria connoting แปลว่า
“การตื่นตัวของจิตใจ” มันเป็นชนิดของ “มุมมองที่บริสุทธิ์” ของความจริง ทฤษฎี
อธิบายความเป็นจริง ทำให้ผู้คนตระหนักถึงโลกของพวกเขาและปฏิสัมพันธ์
อ้างอิงจาก:
หนังสือการพัฒนาหลักสูตร:ทฤษฎีและการปฏิบัติ
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุเทพ อ่วมเจริญ
สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ
ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
Ralph W. Tyler . Basic Principles of
Curriculum and Instruction , The University of Chicago Press.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น